KuCoin ตอบโต้นักวิจารณ์ด้วยแผนการเพิ่มจำนวนพนักงาน 30%

KuCoin ตอบโต้กลับข่าวลือที่ว่าพวกเขามีแผนจะเลิกจ้างพนักงานบางส่วน ด้วยการประกาศการจ้างงานจำนวนมากกว่า 300 ตำแหน่งใหม่

KuCoin ซึ่งเป็นบริษัทกระดานเทรด Crypto เปิดเผยต่อสาธารณะว่าพวกเขาต้องการเพิ่มจำนวนพนักงานให้ได้มากถึง 30% การจ้างงานอย่างต่อเนื่องจะทำให้พวกเขามีบุคลากรเพิ่มขึ้นใหม่อย่างน้อย 300 คนจากพนักงานกว่า 1,000 คนที่พวกเขามีอยู่

พนักงานที่เข้ามาจะทำหน้าที่ในทีมปฏิบัติการด้านกฏระเบียบและการตลาด การออกแบบและเทคโนโลยีของกระดานเทรด Johnny Lyu CEO ของ KuCoin กล่าวว่าพวกเขามักจะมองหาลู่ทางที่จะเพิ่มความสามารถของพนักงานในขณะที่คว้าโอกาสในการขยายการดำเนินงานไปด้วย

Lyu กล่าวเสริมว่า การระมัดระวังตัวในช่วง Crypto Winter “ไม่อาจจะห้ามกันได้” และ “การเดิมพันเพื่อการเติบโตในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยให้เรารักษาระดับที่สูงไว้ได้”

KuCoin ปฏิเสธเรื่องการเลิกจ้าง

หลังจากคู่แข่งของพวกเขาหลายรายได้เลิกจ้างพนักงานบางส่วน นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมกล่าวว่า KuCoin จะเป็นกระดานเทรด Crypto รายต่อไปที่จะทำการลดขนาดบริษัท อย่างไรก็ตาม Lyu ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่าบริษัทไม่มีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานลง

“พวกเราจะไม่ลดจำนวนพนักงานและไม่ได้วางแผนที่จะทำเช่นนั้น” Lyu ยืนยันท่ามกลางข่าวลือที่วนเวียนอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่าก็มีเพียงเฉพาะพนักงานที่มีประวัติผลงานไม่ดีเท่านั้นที่จะถูกเลิกจ้างเมื่อจบการประเมินพนักงานตามปกติ

Lyu เปิดเผยว่าบริษัทมีสถานะทางการเงินที่ดี เนื่องจากพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับ LUNA หรือ TerraUSD (UST) Stablecoin ที่ล่มสลายไป

ข่าวลือเรื่องการเลิกจ้างส่งผลกระทบต่อราคาของ KCS ซึ่งเป็นโทเค็นของ KuCoin ซึ่งร่วงลง 5% ในต้นสัปดาห์ KCS มีราคาซื้อขายที่ 8.84 ดอลลาร์และลดลง 69% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 28.80 ดอลลาร์

คู่แข่งกระดานเทรดเลิกจ้างพนักงาน

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม บริษัทกระดานเทรด Crypto จำนวนหนึ่งได้ประกาศแผนการที่จะลดขนาดพนักงานลงอย่างมาก Coinbase เป็นผู้นำหลังจากพวกเขายกเลิกสัญญาจ้างงานของพนักงานที่รับสมัครมาและเลิกจ้างพนักงานไป 1 ใน 5

Crypto.com, Gemini และ BlockFi ก็ได้มีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันเพื่อประกาศถึงการเลิกจ้างจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม Binance และ FTX ต่างก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานในช่วง Crypto Winter และปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่พึงประสงค์